สุขภาพดวงตา

 

สุขภาพดวงตา
ทุกวันดวงตาต้องรับภาระอย่างหนักตั้งแต่เช้าจนถึงเวลานอน รวมทั้งต้องเจอกับสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษหรืออนุมูลอิสระที่ทำลายดวงตา สิ่งเหล่านี้กระตุ้นให้สายตาเสื่อมเร็วกว่าปกติและเป็นสาเหตุของโรคตาอื่น ๆ เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคต้อกระจก ดังนั้นการถนอมและดูแลสายตาด้วยสารอาหารเพื่อสุขภาพดวงตา เช่น สารสกัดจากดอกดาวเรืองที่ให้สารอาหารประเภทลูทีน หรือ สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงอื่น ๆ จึงเป็นอีกทางเลือกของการมีสุขภาพดวงตาที่ดีสารอาหารเพื่อสุขภาพดวงตา
1. สารสกัดจากดอกดาวเรือง

สารอาหารที่สำคัญในดอกดาวเรืองคือ ลูทีน (Lutein) ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อดวงตาโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณ จุดรับภาพของดวงตาที่เรียกว่า “มาคูล่า (Macula)” ลูทีนจัดอยู่ในกลุ่มสารมีสีในตระกูลของแคโรทีนอยด์
กลไกการทำงาน
ลูทีน (Lutein) ที่พบในดอกดาวเรืองจะมีหน้าที่ในการป้องกันและชะลอโรคจอประสาทตาเสื่อม โดยเข้าไปดูแลบริเวณจุดรับภาพของดวงตา (Macula) รวมทั้งมีคุณสมบติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงจึงสามารถปกป้องดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. สารสกัดจากเมล็ดองุ่น
กลไกการทำงาน
เนื่องจากแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ต่างก็เชื่อว่าสาเหตุหลักที่สำคัญที่ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับดวงตา ไม่ว่าจะเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม หรือโรคต้อชนิดต่าง ๆ ล้วนมีสาเหตุหลักมาจากดวงตาถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ ดังนั้นด้วยคุณสมบัติที่สำคัญของสารสกัดจากเมล็ดองุ่นที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง โดยมีประสิทธิภาพมากกว่าวิตามินซี 20 เท่า และมากกว่าวิตามินอี 50 เท่า ก็จะช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่มาทำลายดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

3. น้ำมันตับปลาค้อด
น้ำมันตับปลา (Cod Liver Oil) คือ น้ำมันที่สกัดมาจากตับของปลา ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วน้ำมันตับปลาที่ดีนั้นควรจะได้จากปลาทะเลที่อาศัยอยู่ในน้ำลึก เพราะจะมีความบริสุทธิ์ ปราศจากโลหะหนัก และปลอดภัยมากกว่า โดยปลาที่นิยมใช้ส่วนใหญ่จะเป็นตับปลาค็อด ที่จะอุดมด้วยสารอาหารที่สำคัญได้แก่ วิตามินเอ และวิตามินดี
กลไกการทำงาน
เนื่องจากสารอาหารที่สำคัญที่พบในน้ำมันตับปลานั้นก็คือ “วิตามินเอ” ดังนั้นการได้รับวามินเอในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายก็จะช่วยในเรื่องของการบำรุงสุขภาพดวงตาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการป้องกัน โรคตาบอดเวลากลางคืน การปกป้องอนุมูลอิสระที่มาทำลายดวงตา เป็นต้น

4. สารสกัดจากบิลเบอร์รี่
ผลไม้สีน้ำเงินม่วง ตระกูลเดียวกับแบล็คเคอร์แรนท์ บลูเบอร์รี่และแครนเบอร์รี พบมากในแถบอเมริกาเหนือและยุโรป ปัจจุบันมีผลงานวิจัยและค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์มากมายพบว่า บิลเบอร์รี่นั้นจะมีสารอาหารที่สำคัญหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อดวงตา โดยเฉพาะสารสำคัญที่ชื่อว่าแอนโธไซยาโนไซด์ (Anthocyanoside)” ซึ่งจัดเป็นสารประกอบโพลีฟีนอลในกลุ่มของฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) และจัดเป็นสารตั้งต้นที่ทำให้เกิดสีน้ำเงินหรือม่วงในพืช โดยคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดคือ การเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่จะช่วยในเรื่องของการปกป้องและดูแลสุขภาพดวงตา
กลไกการทำงาน
-ปกป้องอนุมูลอิสระที่มาทำลายดวงตา
-เพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นในที่มืด และป้องกันโรคตาบอดกลางคืน
-ป้องกันเรตินา ถูกทำลายโดยกระบวนการ Oxidation
-เพิ่มความสามารถการทำงานของเอนไซม์บางชนิดที่อยู่ในจอประสาทตา ทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
-ลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา
-เพิ่มความแข็งแรงของผนังเส้นเลือดฝอย ส่งผลให้เรตินามีความแข็งแรงมากขึ้น

[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]
แชร์:

บทความที่คุณอาจสนใจ

วิตามินอีและวิตามินซีเป็นวิตามินช่วยลดการอักเสบ
หลังจากทำศัลยกรรมมักเกิดอาการบวมและช้ำจากการอักเสบได้ บทความนี้จึงรวมวิธีลดบวม และอาหารเสริมลดการอักเสบมาแนะนำให้ได้รู้จักกัน
ซิงก์ (Zinc) หนึ่งในวิตามินที่สามารถบำรุงเส้นผม และสุขภาพคุณผู้ชายได้เป็นอย่างดี อยากรู้ว่าซิงก์นั้นมีประโยชน์ต่อผู้ชายอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ
ผิวแห้งมากจนแสบคัน ต้องทำไงดีเพื่อฟื้นฟูไม่ให้ผิวดูแห้งกร้าน? เสริมด้วยคอลลาเจน ตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ตึงกระชับผิว ศึกษาต่อได้ในบทความนี้