กระทรวงสาธารณสุข เตือนอันตรายภัยเงียบ “เชื้อไวรัสตับอักเสบ” โดยเฉพาะ ชนิดบี ชนิดซี เป็นตัวการก่อมะเร็งตับ ตับแข็ง ติดต่อกันง่ายทางเลือด ทางเพศสัมพันธ์ง่ายกว่าเชื้อไวรัสเอชไอวี 50-100 เท่าตัว
เชื้อไวรัสตับอักเสบที่เป็นปัญหาทั่วโลกและในไทยคือ ไวรัสชนิดบี รองลงมาคือชนิด ซี เชื้อทั้ง 2 ชนิดนี้ติดต่อคนอื่นคล้ายเชื้อเอชไอวี ที่ทำให้เกิดโรคเอดส์ คือติดต่อทางเลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การสัมผัสสารคัดหลั่งทางเพศสัมพันธ์ และติดต่อจากแม่สู่ลูก แต่จะติดกันง่ายกว่าเชื้อเอชไอวีถึง 50-100 เท่าตัว เชื้อมีความทนทานและสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายวัน มีระยะฟักตัว 1-6 เดือน เฉลี่ยนาน 3 เดือน มีการคาดการณ์ว่าขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี ประมาณ 2,000 ล้านคน ในจำนวนนี้ประมาณ 240 ล้านคน จะกลายเป็นผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง และเสียชีวิตปีละประมาณ 6 แสนคนจากโรคตับแข็งและมะเร็งตับ ส่วนคนไทยในผู้ที่มีอายุ 20 ปี ขึ้นไป มีอัตราติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี โดยไม่แสดงอาการป่วย ประมาณร้อยละ 2-5 ประมาณได้ว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบราว 1-2 ล้านคน และในอนาคต คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งตับปีละประมาณ 250,000 คน
ในการป้องกันโรคตับอักเสบ ขอให้ประชาชนปฏิบัติตัวดังนี้
- ลดละการดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- ใช้ถุงยางอนามัย 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นเพศสัมพันธ์กับต่างเพศ หรือรักร่วมเพศก็ตาม จะปลอดภัยจากโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทุกชนิด รวมทั้งป้องกันการตั้งครรภ์
- ไม่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
- ไม่สัก ฝังเข็ม หรือเจาะ เช่น เจาะหู ในร้านที่ไม่มีมาตรฐาน
- หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคมร่วมกัน เช่น มีดโกนหนวด มีดโกน กรรไกตัดเล็บ
- กินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือ ดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำต้มสุก รับประทานอาหารปรุงสุกด้วยความร้อน โดยเชื้อไวรัสตับอักเสบจะตายเมื่อถูกความร้อน 100 องศาเซลเซียส
- ล้างผักสดและผลไม้ให้สะอาดก่อนรับประทาน
- ไม่ถ่ายอุจจาระลงน้ำ ขอให้ถ่ายอุจจาระลงส้วม ซึ่งมีระบบเก็บกักอุจจาระมิดชิด ไม่แพร่กระจายสิ่งแวดล้อม
สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ จะมีอาการดีซ่าน คือตัวเหลือง ตาเหลือง คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดท้องบริเวณชายโครงขวา อาการตัวเหลืองตาเหลืองอาจเป็นนานหลายสัปดาห์ ผู้ป่วยส่วนหนึ่งจะหายขาด แต่ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งอาจจะกลายเป็นพาหะโรค คือสามารถแพร่เชื้อสู่คนอื่นได้ โดยไม่มีอาการป่วย หากติดเชื้อในช่วงอายุ 1 ปีแรก มีความเสี่ยงต่อการกลายเป็นผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง ร้อยละ 90 หากติดในช่วงอายุ 1-4 ปี จะกลายเป็นผู้ติดเชื้อเรื้อรังร้อยละ 30-50 และหากติดในวัยผู้ใหญ่ จะกลายเป็นผู้ติดเชื้อเรื้อรังร้อยละ 10 หากประชาชนสนใจข้อมูลเพิ่มเติมให้สอบถามที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค หมายเลข 1422
ที่มา : สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข