อะเซโรล่า เชอร์รี่ ราชินีวิตามินซีที่ดีต่อร่างกาย

เมื่อพูดถึง “วิตามินซี” แน่นอนว่าหลายคนคงทราบถึงประโยชน์ของสารอาหารชนิดนี้มากมาย ที่นอกจากจะเป็นตัวช่วยในการเพิ่มภูมิต้านทานและป้องกันโรคหวัดแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูกระจ่างใส อ่อนเยาว์ และมีสุขภาพดีมากขึ้นอีกด้วย

แต่จะให้เกิดผลดีต่อสุขภาพ แน่นอนว่าการกินวิตามินซีในปริมาณที่เหมาะสมก็เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องรู้ เรามาดูกันว่าปริมาณวิตามินซีที่เราควรได้รับ และวิธีกินวิตามินซีแต่ละแบบที่ถูกต้องมีแบบไหนบ้าง

อะเซโรล่า เชอร์รี่ ราชินีวิตามินซี

วิตามินซี นับว่าเป็นวิตามินครอบจักรวาล มีประโยชน์ในการดูแลร่างกายในหลากหลายด้าน ซึ่งเราสามารถเลือกกินได้จากผักผลไม้นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น ส้ม สตรอว์เบอร์รี ฝรั่ง หรือลิ้นจี่ ซึ่งล้วนเป็นผลไม้ที่ได้ชื่อว่า อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง แต่รู้หรือไม่ว่า ยังมีผลไม้อีกชนิดที่มีวิตามินซีสูงมาก ซึ่งหลายคนอาจคุ้นหู แต่ยังไม่รู้จักดี นั่นก็คือ อะเซโรล่า เชอร์รี่

อะเซโรล่า เชอร์รี่ เป็นผลไม้รสชาติอร่อย มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว กินแล้วสดชื่นเป็นเอกลักษณ์ อุดมด้วยกรดแอสคอร์บิก หรือวิตามินซี ที่มีความเข้มข้นมากกว่าผลส้มมากถึง 30-80 เท่า มีคุณสมบัติสามารถดูดซึมได้ดีกว่าวิตามินซีแบบสังเคราะห์ นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยสารอาหารอีกหลากหลายชนิด อย่างวิตามินเอ ช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา วิตามินบีรวม ดูแลระบบประสาทและสมอง สารไบโอฟลาโวนอยด์ที่มีฤทธิ์ต่อต้านสารอนุมูลอิสระสูง ช่วยดูแลผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์ กระจ่างใสมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมการทำงานของภูมิคุ้มกันของร่างกายช่วยป้องกันไวรัส และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ จึงนับได้ว่า วิตามินซีจากอะเซโรล่า เชอร์รี่เป็นแหล่งวิตามินซีที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก

จุดเด่นของวิตามินแต่ละรูปแบบ และวิธีกินวิตามินซีที่เหมาะสม

  • แบบอัดเม็ด : เป็นรูปแบบวิตามินซียอดนิยม ซึ่งมีขนาด 500 และ 1,000 มิลลิกรัม มีคุณสมบัติเป็นสารละลาย ที่ออกฤทธิ์ในร่างกายได้นานขึ้น ไม่ทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร วิธีกินวิตามินซีแบบเม็ดที่เหมาะสม แนะนำให้เลือกในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกายแต่ละคน
  • แบบเม็ดอม : เป็นรูปแบบวิตามินซีที่เหมาะสำหรับคนไม่ชอบกินยา หรือกลืนเม็ดยาได้ยาก มีขนาดให้เลือกได้ตั้งแต่ 25-500 มิลลิกรัม มีคุณสมบัติที่รสเปรี้ยวอมหวาน อร่อย กินง่าย แต่ควรระวัง ไม่ควรอมในปริมาณมากเกินไป เพราะมีกรดที่อาจทำให้ฟันกร่อนได้
  • แบบเม็ดเคี้ยว : เป็นรูปแบบวิตามินซีที่เหมาะสมสำหรับเด็ก ด้วยรสชาติหวาน อร่อย เคี้ยวได้ทำให้กินง่ายขึ้น โดยปกติมีขนาด 30 มิลลิกรัม แต่ควรระวังการกิน เพราะมีส่วนประกอบเป็นปริมาณน้ำตาลสูงที่ทำให้เกิดฟันผุได้
  • แบบเม็ดฟู่ : เป็นรูปแบบวิตามินซีที่เหมาะสำหรับคนไม่ชอบกินแบบเม็ด มีวิธีกินวิตามินซีที่ง่ายและสะดวก โดยการทำไปละลายในน้ำจนฟองหมด จากนั้นก็ดื่มได้ทันที โดยปกติมีขนาด 500 และ 1,000 มิลลิกรัม
  • แบบแคปซูล : เป็นรูปแบบวิตามินซีแคปซูลชนิดนิ่มและแข็ง โดยปกติจะมีขนาด 500 มิลลิกรัม สามารถกลืนได้ง่ายมาก สบายคอมากกว่ารูปแบบเม็ด
  • แบบสารละลายเพื่อฉีด : เป็นรูปแบบวิตามินซีที่ต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ มีคุณสมบัติเด่นคือสามารถออกฤทธิ์ได้เร็ว ร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้บำรุงร่างกายได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านการย่อยจากกระเพาะอาหาร มักจะมีขนาดจะอยู่ที่ 500 มิลลิกรัม

ปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายควรได้รับแต่ละวัน

  • สำหรับผู้ที่ต้องการวิตามินซีเพื่อเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายและบำรุงผิวพรรณ ควรบริโภควิตามินซีวันละ 1,000-3,000 มิลลิกรัม
  • สำหรับผู้ที่ต้องการวิตามินซีเพื่อดูแลโรคหวัดหรืออาการภูมิแพ้ ควรบริโภควิตามินวันละ 2,000 มิลลิกรัม
  • สำหรับผู้ที่ต้องการวิตามินซีเพื่อดูแลและบำรุงสุขภาพร่างกาย ควรบริโภควิตามินวันละ 1,000 มิลลิกรัม
  • สำหรับผู้ที่ต้องการวิตามินซีเพื่อดูแลและปกป้องผิวจากแสงแดด ควรบริโภควิตามินวันละ 2,000 มิลลิกรัม รวมถึงสามารถกินร่วมกับวิตามินอีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการดูแลผิวให้ดีกว่าเดิม

วิธีกินวิตามินซีให้ได้คุณค่าสูงสุด

วิธีกินวิตามินซีอย่างไร ให้ได้คุณค่าสูงสุด?

  1. แนะนำให้กินวิตามินซีพร้อมอาหารมื้อเช้าและมื้อเย็น จะมีส่วนช่วยลดอาการระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ดี
  2. สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ควรกินวันละ 1,000 มิลลิกรัม เพื่อเข้าไปช่วยลดสารอนุมูลอิสระ และลดความรุนแรงของอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ
  3. การกินวิตามินซีร่วมกับแคลเซียม แมกนีเซียม และไบโอฟลาโวนอยด์ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึม และช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จะเห็นได้ว่า วิตามินซีเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในอะเซโรล่า เชอร์รี่ ที่มีปริมาณวิตามินซีจากธรรมชาติสูงกว่าผลไม้ประเภทอื่น ที่ช่วยดูแลร่างกายไม่ให้เจ็บป่วยอยู่บ่อย ๆ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง พร้อมต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ และที่สำคัญช่วยดูแลให้ผิวมีสุขภาพดี ขาว ดูเปล่งปลั่ง ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถเลือกกินได้จากผลไม้ หรือเลือกกินจากอาหารเสริมในหลายรูปแบบตามความต้องการ และความเหมาะสมกับร่างกายแต่ละคน

แหล่งอ้างอิง

  1. วิตามินซีมากเท่าไหร่…ถึงดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 จาก https://www.phyathai.com/article_detail/3268/th/วิตามินซีมากเท่าไหร่…ถึงดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน
  2. รู้จักชนิดวิตามินซีและการทานที่ถูกต้อง. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 จาก https://www.bangkokhospital.com/content/know-vitamin-c-deeply
  3. มาทำความรู้จักกับ Vitamin C. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 จาก https://www.exta.co.th/vitamin-c/
แชร์:

บทความที่คุณอาจสนใจ

วิตามินอีและวิตามินซีเป็นวิตามินช่วยลดการอักเสบ
หลังจากทำศัลยกรรมมักเกิดอาการบวมและช้ำจากการอักเสบได้ บทความนี้จึงรวมวิธีลดบวม และอาหารเสริมลดการอักเสบมาแนะนำให้ได้รู้จักกัน
ซิงก์ (Zinc) หนึ่งในวิตามินที่สามารถบำรุงเส้นผม และสุขภาพคุณผู้ชายได้เป็นอย่างดี อยากรู้ว่าซิงก์นั้นมีประโยชน์ต่อผู้ชายอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ
ผิวแห้งมากจนแสบคัน ต้องทำไงดีเพื่อฟื้นฟูไม่ให้ผิวดูแห้งกร้าน? เสริมด้วยคอลลาเจน ตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ตึงกระชับผิว ศึกษาต่อได้ในบทความนี้