เคล็ดลับรักษาหุ่นของสาวร่างบาง
เคยสงสัยบ้างมั๊ยว่า เหตุใดสาวหุ่นบางยังคงรักษาความผอมเพรียวไว้ได้อย่างคงเส้นคงวาไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี ผู้เชียวชาญด้านรูปร่างเฉลยถึงเคล็ด(ไม่)ลับนี้ว่า เป็นเพราะพวกเธอใส่ใจเรื่องการกินเพื่อสุขภาพจนกลายเป็นนิสัย ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการรักษารูปร่างที่สำคัญที่สุด
“เป็นความจริงที่ว่า เมื่อน้ำหนักตัวลดลงจนถึงระดับที่พอใจแล้ว คุณอาจถูกยั่วยวนได้ง่ายจากอาหารต่าง ๆ ที่เคยงดในช่วงไดเอ็ต และอาจหันกลับไปสู่พฤติกรรมการกินแบบเดิมได้” Noomi Fukagawa แพทย์ชาวญี่ปุ่น และเป็นโฆษกหญิงประจำ American Society for Nutrtion ได้กล่าว พร้อมแนะนำเคล็ดลับการรักษาน้ำหนักตัว (หลังไดเอ็ต) ให้อยู่คงยาวนาน แค่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตเพียงเล็กน้อย แต่กลับได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า
1.การชั่งน้ำหนักอยู่เป็นประจำ
การขึ้นตาชั่นอย่างน้อยวันละครั้งถือเป็นการบังคับให้คุณรักษาวินัยการกินเพื่อสุขภาพได้ทางอ้อมและช่วยให้ระวังการกินก่อนที่น้ำหนักที่น้ำหนักจะเพิ่มขึ้น Dr.Meghan Butryn ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทางด้านจิตวิทยาของมหาลัย Drexel สหรัฐอเมริกาเผยว่าเธอและทีมวิจัยได้ศึกษาถึงพฤติกรรมการกินของคนที่สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 30 ปอนด์หรือมากกว่านั้น และยังคงน้ำหนัก (ที่ลดได้) อยู่นานหลายปี ผลการวิจัยพบว่าคนกลุ่มนี้จะชั่งน้ำหนักอย่างเคร่งครัด โดยอาจมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยประมาณ 4 ปอนด์ต่อปี ส่วนผู้ที่ไม่ได้ชั่งน้ำหนักอย่างสม่ำเสมอมีโอกาสที่น้ำหนักจะหลับมาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
2.เพิ่มโปรตีนให้มากขึ้น
ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร American Journal of Clinical Nutrtion ระบุว่าผู้หญิงที่บริโภคโปรตีนสูง (110 กรัมต่อวันหรือ 26 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนแคลอรี) ในช่วงน้ำหนัก จะรักษาน้ำหนักที่เสียไปราว 14 ปอนด์ได้เป็นเวลาหลายปี ส่วนผู้ที่ไม่เคร่งครัดกับการกินเพื่อสุขภาพ และบริโภคโปรตีนต่ำกว่า 72 กรัมต่อวัน หรือน้อยกว่า 19 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณโปรตีนที่ได้รับ จะรักษาน้ำหนักตัวที่หายไปเพียง 7 1/2 ปอนด์ คุณหมอ Peter Clifton ผู้เขียนผลการวิจัยชิ้นนี้บอกว่า “ยิ่งคุณบริโภคโปรตีนมากขึ้นจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ที่ทำให้รู้สึกอิ่มและไม่อยากอาหาร” ทั้งยังแนะนำให้ผู้ที่ควบคุมน้ำหนักหันมากกินโยเกิร์ตสไตส์กรีกซึ่งให้โปรตีนสูง รวมทั้งมินิชีส และโรลไก่งวงแทนพวกคาร์โบไฮเดรรตหรืออาหารที่อุดมไปด้วยไขมัน
3.เน้นผักและผลไม้ 5 ชนิด
หันมากินผักและผลไม้เป็นหลัก อย่างน้อยแต่ละมื้อควรมีผักใบเขียวอยู่ด้วย (คละผักสีส้ม,แดง,และฟ้า) การบริโภคผักและผลไม้จะช่วยป้องกันเชื้อโรคได้หลายชนิด แถมยังช่วยรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ได้ดีอีกด้วย ผลการศึกษาจากศูนย์ควบคุมและป้องกันเชื้อโรค (Centers for Disease Control and Prevention หรือ CDC) พบว่าผู้หญิงที่บริโภคผักและผลไม้อยู่เสมอ (อย่างน้อยคือ 5 ชนิดต่อวันไม่รวมมันฝรั่ง) มีแนวโน้มที่จะป้องกันน้ำหนักหวนกลับมาได้สูงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ เพราะในผักและผลไม้อุดมไปด้วยเส้นใบอาหารและน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก จึงทำให้คุณอิ่มท้องและไม่มีพื้นที่ว่างในท้องมากพอสำหรับสิ่งอื่น
4.เสพติดการออกกำลังกาย
ผลการศึกษาจาก CDC แนะนำให้ฝึกเป็นนิสัยกินผักและผลไม้ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยให้ทำเป็นกิจกรรมที่ได้เหงื่อประมาณ 30 นาทีและในหนึ่งสัปดาห์พยายามหาวันออกกำลังกายให้มากที่สุด ยิ่งหากทำได้มากกว่า 2 วันต่อ สัปดาห์จะมีแนวโน้มรักษาน้ำหนักตัวได้คงที่มากกว่าผู้ที่ออกกำลังกายน้อย “การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อเอาไว้ ทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้น” Dr.Scott Goimg ศาสตราจารย์ด้ายวิทยาศาสตร์โภชนาการ มหาวิทยาลัยArizona แนะนำ นอกจากนี้การออกกำลังกายอยู่เสมอยังทำให้คุณมีพื้นที่ว่างสำหรับแคลอรี่เพิ่มในโอกาสพิเศษ แต่กลับไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
5.กินนอกบ้านให้น้อยลง
ด้วยสัดส่วนของอาหารนอกบ้านที่มักเสิร์ฟจานใหญ่และบางจานมีพลังงานเกินกว่า 1,000 แคลอรี่ Judy Kruger แพทย์ผู้เชียวชาญด้านระบาดวิทยาแห่ง CDC แนะนำให้สาว ๆ หันมาทำอาหารกินเอง ซึ่งเป็นวิธีรักษาน้ำหนักได้ดีที่สุด เพราะคุณจะมั่นใจได้ว่าอาหารจากนั้นมีไขมันและแคลอรี่ต่ำจริง โดยเธอเปรียบเทียบระหว่างคนกินฟาสต์ฟู้ดอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์กับคนที่ไม่กินเลย พบว่าที่ไม่กินฟาสต์ฟู้ดมีความเป็นไปได้สูงที่จะรักษาน้ำหนักเดิมไว้ถึง 62 เปอร์เซ็นต์ แต่หากมื้อไหนที่ออกไปกินนอกบ้าน Kruger บอกให้ลองแบ่งสัดส่วนอาหารคนละครึ่งกับเพื่อนหรือสั่งเมนูเรียกน้ำย่อยเป็นจานหลัก สำหรับคนที่ใช้
กลยุทธ์ดังกล่าว มากกว่า 28 เปอร์เซ็นต์ มีแนวโน้มที่จะรักษารูปร่างและน้ำหนักได้ดีกว่าคนที่ปล่อยตัว
แค่ทำตามหลักการง่าย ๆ นี้ได้ครบทั้ง 5 ข้อรับรองว่าคุณจะไม่มีวันอ้วนเลยค่ะลองเอาไปปรับทำดูวันละนิดวันละหน่อยจนครบทั้ง 5 ข้อนะ
ขอบคุณที่มา : Lisa