ยุคนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคที่คนเราหันมาสนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย หรือจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ต้องดูแลเพื่อให้เกิดความสมดุลในชีวิต หลายๆคนจึงพยายามสรรหาสิ่งดีๆให้แก่ร่างกาย น้ำมันปลาจึงเป็นตัวเลือกในลำดับแรกๆ ที่เป็นที่นิยมในหมู่คนรักสุขภาพ แต่ก็มักจะเกิดคำถามและมีคนเข้าใจผิดเรื่องน้ำมันปลาอยู่บ่อยๆ วันนี้เลยนำเรื่องราวของน้ำมันปลามาฝากทุกๆคนกันค่ะ เพื่อเป็นเกร็ดความรู้ก่อนเริ่มตัดสินใจเลือกทานน้ำมันปลา
1. น้ำมันปลามีประโยชน์อย่างไร?
น้ำมันปลา มีกรดไขมัน โอเมก้า-3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ ให้ DHA ช่วยบำรุงสมอง ให้เกิดความคิดอ่านที่โลดแล่น ป้องกันความจำเสื่อม ลดความเครียดในสมอง และ ให้ EPA ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดการอักเสบ
2. ควรทานน้ำมันปลาตอนไหนอย่างไร?
ควรรับประทานพร้อมอาหาร หรือหลังอาหาร เพราะการดูดซึมจะดีกว่า
3. น้ำมันปลามีผลข้างเคียงหรือไม่?
กินน้ำมันปลาขนาดปกติไม่มีผลข้างเคียงใดๆ สามารถทานได้ทุกวัน วันนึงไม่ควรเกิน 3,000 มก.
4. “น้ำมันตับปลา” กับ “น้ำมันปลา” แตกต่างกันอย่างไร?
– น้ำมันตับปลา สกัดจากตับของปลาทะเลน้ำลึก เป็นอาหารเสริมที่ให้วิตามินเอและดี ช่วยในเรื่องการเจริญอาหาร บำรุงร่างกายทั่วไป นิยมใช้กับเด็ก
– น้ำมันปลา สกัดจากปลาทะเลน้ำลึก เป็นแหล่งที่ให้กรดไขมันไม่อิ่มตัวที่จำเป็น คือ โอเมก้า 3 ที่ให้ DHA & EPA ช่วยบำรุงสมอง หัวใจ ลดไขมันในเลือด
5. น้ำมันปลา มีปฏิกิริยากับยาอื่นหรือไม่?
น้ำมันปลาเสริมฤทธิ์ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแก้ปวดแอสไพริน หากมีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทาน
6. ทานน้ำมันปลาพร้อมกับวิตามินตัวอื่นได้หรือไม่?
สามารถทานได้อย่างปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
7. คนท้องทานได้มั้ย?
คนท้องทานได้ เพราะน้ำมันปลามี DHA ส่งผลดีต่อสมองของลูกน้อย แต่แนะนำให้หยุดทานประมาณ 2 เดือนก่อนคลอดบุตร และควรปรึกษาและแจ้งข้อมูลกับแพทย์ทุกครั้งว่าทานอะไรอยู่บ้าง
8. น้ำมันปลา เหมาะกับใคร?
น้ำมันปลาให้ โอเมก้า 3 ซึ่งร่างกายเราไม่สามารถสร้างเองได้ ดังนั้นก็ควรทานในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆคะ
เห็นแล้วใช่ไหมคะว่าน้ำมันปลามีประโยชน์กับร่างกายเรามากมาย ทานได้ทุกเพศทุกวัย เห็นความสำคัญขนาดนี้แล้วจะช้าอยู่ได้ไง รีบหาน้ำมันปลามาทานกันนะคะ
และวันนี้ Vistra มีตัวช่วยดีๆที่น่าสนใจมาฝากกันนั่นก็คือ VISTRA Tuna Fish Oil ที่มี DHA สูงถึง 500 มก. DHA เสริมสร้างสุขภาพสมองและความจำในทุกช่วงวัยตั้งแต่ขณะเป็นทารกในครรภ์ จนถึงผู้สูงอายุ ดูแลสุขภาพดวงตา การมองเห็น ป้องกันโรคสมาธิสั้น ลดภาวะความจำเสื่อม และลดภาวะเครียดจากการใช้สมอง ควบคุมคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ สามารถเริ่มทาน Tuna Fish Oil ได้ตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงผู้สูงอายุเลยนะคะ
เพราะฉนั้นไม่ว่าวัยไหนๆ สุขภาพที่ดีย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดูแลสุขภาพเริ่มต้นจากตัวเราเองนะคะ