การเดินเพื่อออกกำลังกาย

ออกกำลังกายง่ายๆ แค่ปรับการเดินให้เหมาะสม

การเดินเพื่อออกกำลังกาย กำลังเป็นที่สนใจในกลุ่มวัยทำงานและผู้สูงอายุ เพราะหลายๆท่านเข้าใจว่า การเดินเพื่ออกกำลังกายสามารถนำไปใช้กับกิจกรรมที่ทำอยู่เป็นประจำในขณะทำงานหรือกิจกรรมอื่นๆประจำวันได้ แต่ทราบหรือไม่ว่าแท้จริงแล้วการเดินเพื่อออกกำลังกายไม่ใช่การเดินตามปกติที่เราปฎิบัติในชีวิตประจำวัน แต่เป็นการเดินที่จะต้องถูกปรับจากการเดินปกติเพียงแค่เล็กน้อยเพื่อให้ร่างกายและหัวใจได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง ส่วนวิธีการปรับการเดินในชีวิตประจำวันให้เหมาะสมและเป็นการออกกำลังกายไปด้วยนั้นเป็นอย่างไร ลองไปดูกันครับ

การเดินเพื่อออกกำลังกาย

การเดินที่ถูกต้องและเหมาะสม

  • ศรีษะและลำตัวตรงไม่ควรโน้มตัวไปด้านหน้าหรือด้านหลังมากกกว่า 5 องศา
  • คางอยู่ในแนวขนานกับพื้น ตามองไปข้างหน้าประมาณ 10-15 ฟุต
  • งอข้อศอกขึ้นประมาณ 90 องศา กำมือหลวมๆ ไม่ควรเกร็งไหล่
  • ควรเดินแกว่งแขน แต่ไม่ควรแกว่งแรงเกินไป
  • การเดินควรใช้แรงเหวี่ยงจากสะโพก ก้าวเท้าไปข้างหน้า ลงน้ำหนักที่ส้นเท้าก่อนแล้วจึงถ่ายน้ำหนักลงให้เต็มฝ่าเท้า จากนั้นจึงยกส้นเท้าขึ้นถ่ายน้ำหนักลงสู่ปลายเท้าและยกเท้าก้าวต่อไป

การเดินเพื่อออกกำลังกาย

โดยปกติการออกกำลังกายแบบแอโรบิคจะมีด้วยกัน 3 ระยะคือ

  1. อบอุ่นร่างกาย ประมาณ 5-10 นาที
  2. ออกกำลัง ประมาณ 20-30 นาที
  3. ผ่อนพัก ประมาณ 5-10 นาที

สำหรับคนที่ไม่ค่อย Active สักเท่าไหร่จะเดินได้ 5,000 – 6,000 ก้าวต่อวัน และเป็นการเดินที่ไม่ต่อเนื่องกัน แต่หากเป็นการเดินเพื่อออกกำลังกายควรเดินเพิ่มขึ้นอีก 30 นาที และเป็นการเดินแบบต่อเนื่องซึ่งจะทำให้ได้จำนวนก้าวเพิ่มขึ้น 3,000-4,000 ก้าวจนได้จำนวนก้าวเดินรวมประมาณ 10,000 ก้าว ต่อวัน จึงจะส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงและป้องกันโรคต่างๆได้อีกมากมาย ซึ่งการเดินเพื่อออกกำลังกายนี้จะต้องทำตามขั้นตอนของการออกกำลังกายแบบแอโรบิคทั้ง 3 ระยะดังที่กล่าวมาข้างต้น

ขั้นตอนการเดินเพื่อออกกำลังกาย

    • การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ขา ต้นขา และหลัง
    • การเดินช้าๆ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายมีการปรับตัว
    • การเดินออกกำลังกายโดยเร่งความเร็วจนได้ความหนักระดับปานกลาง ในขั้นตอนนี้จะต้องเดินต่อเนื่อง 20-30 นาที หรือแบ่งเป็นช่วงก็ได้ ช่วงละ 10 นาทีหรือมากกว่านั้น แต่ห้ามต่ำกว่า 10 นาที
    • ค่อยๆเดินช้าลงตามด้วยการเหยียดกล้ามเนื้ออีกครั้งออกกำลังกาย-01

 

แชร์:

บทความที่คุณอาจสนใจ

วิตามินอีและวิตามินซีเป็นวิตามินช่วยลดการอักเสบ
หลังจากทำศัลยกรรมมักเกิดอาการบวมและช้ำจากการอักเสบได้ บทความนี้จึงรวมวิธีลดบวม และอาหารเสริมลดการอักเสบมาแนะนำให้ได้รู้จักกัน
ซิงก์ (Zinc) หนึ่งในวิตามินที่สามารถบำรุงเส้นผม และสุขภาพคุณผู้ชายได้เป็นอย่างดี อยากรู้ว่าซิงก์นั้นมีประโยชน์ต่อผู้ชายอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ
ผิวแห้งมากจนแสบคัน ต้องทำไงดีเพื่อฟื้นฟูไม่ให้ผิวดูแห้งกร้าน? เสริมด้วยคอลลาเจน ตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ตึงกระชับผิว ศึกษาต่อได้ในบทความนี้