“เอลเดอร์เบอร์รี” (Elderberry) Superfood เสริมภูมิคุ้มกัน

เอลเดอร์เบอร์รี (Elderberry) Superfood เสริมภูมิคุ้มกัน

“เอลเดอร์เบอร์รี” (Elderberry) เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รีชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารต่างๆ มากมาย มีประโยชน์มากในเรื่องของการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักเอลเดอร์เบอร์รีให้ดียิ่งขึ้น จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

เอลเดอร์เบอร์รี” (Elderberry) คืออะไร?

“เอลเดอร์เบอร์รี” (Elderberry) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Sambucus nigra L. เป็นพืชในตระกูลเบอร์รี ผลทรงกลมเล็ก  สีม่วงเข้ม รสชาติเปรี้ยวอมหวาน มีถิ่นกำเนิดในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ ปลูกในหลายประเทศทั่วโลกที่มีอากาศหนาวเย็น มีประโยชน์และสรรพคุณทางยาหลายอย่าง เป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงการแพทย์เนื่องจากมีการใช้สารสกัดเอลเดอร์เบอร์รีในเชิงของยาต้านหรือยับยั้งเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหวัด และโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น

สารอาหารในเอลเดอร์เบอร์รี (Elderberry)

ใน“เอลเดอร์เบอร์รี” (Elderberry)  อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารต่างๆมากมาย ดังนี้

  • สารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ชื่อ Cyanidin-3-Sambubioside เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งเป็นสารสำคัญที่อยู่ในเอลเดอร์เบอร์รี ช่วยยับยั้งการเกาะติดของเชื้อไวรัสกับเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ชะลอการเติบโตของเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ ช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างดีเยี่ยม
  • เควอซิติน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถต้านอาการอักเสบและภูมิแพ้ มีฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งสารฮีสตามีนที่เป็นสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบและภูมิแพ้ต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย รวมทั้งยังลดความเสี่ยงของโรคหัวใจอีกด้วย
  • รูติน มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และช่วยต้านอาการภูมิแพ้ได้ดี โดยปกติเมื่อสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจะปลดปล่อยสารฮีสตามินซึ่งเป็นสารกระตุ้นการอักเสบ ทำให้หลอดลมตีบและมีอาการแพ้เกิดขึ้น รูตินมีสรรพคุณช่วยยับยั้งการหลั่งฮีสตามีนหรือทำให้เกิดช้าลงจึงช่วยให้อาการแพ้ต่างๆ ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ลดการเกิดลิ่มเลือด ทำให้หลอดเลือดฝอยและหลอดเลือดดำแข็งแรง จึงมีผลในการรักษาอาการฟกซ้ำดำเขียว ป้องกันหลอดเลือดเปราะแตกง่าย และช่วยลดอาการเส้นเลือดขอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • วิตามินเอ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงสายตาช่วยในการมองเห็น ป้องกันโรคตาบอดในตอนกลางคืน
  • วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน
  • วิตามินบี 1,6,12 ช่วยในการดูแลระบบประสาทให้ทำงานได้อย่างเป็นปกติ และช่วยเสริมการทำงานของเม็ดเลือดขาว

สารต้านอนุมูลอิสระใน “เอลเดอร์เบอร์รี” (Elderberry) ที่เป็นสารสำคัญออกฤทธิ์ทางชีวภาพได้แก่สารกลุ่ม Polyphenols และ Anthocyanins มีประสิทธิภาพสูงถึง 100 %โดยปริมาณของสารกลุ่มนี้ในเอลเดอร์เบอร์รี่นับว่ามีปริมาณสูงมากเมื่อเทียบกับเบล็คเบอร์รี ราสเบอร์รี บลูเบอร์รี หรือทับทิม ที่เป็นผลไม้ Superfood ชนิดอื่นๆ

เอลเดอร์เบอร์รี (Elderberry) กับ ภูมิคุ้มกัน

จากรายงานของ The ABC Clinical Guide to Elder Berry พบว่า เอลเดอร์เบอร์รีช่วยในการรักษาอาการไอ มีไข้ หนาวสั่น คัดจมูก มีน้ำมูก อาการไข้หวัดใหญ่ รวมไปถึงเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง โดยในรายงานอธิบายผลการออกฤทธิ์ของเอลเดอร์เบอร์รีต่อเชื้อไข้หวัดใหญ่หรือ Influenza virus เกิดจากการที่สารสำคัญในเอลเดอร์เบอร์รีกลุ่ม Cyanidin-3-Sambubioside (Anthocyanins) สามารถไปจับกับไกลโคโปรตีน Hemagglutinin Protein บนผิวไวรัส ส่งผลยับยั้งการเกาะติดของเชื้อไวรัสกับเซลล์ในร่างกายและทำให้ไวรัสไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้ ระบบภูมิคุ้มกันจึงกำจัดเชื้อไวรัสได้โดยไม่ก่อให้เกิดอาการของโรคไข้หวัด และพบว่าสารสกัดจากผลเอลเดอร์เบอร์รียังสามารถเพิ่มปริมาณของสาร Cytokines ที่ใช้สื่อสารระหว่างเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกัน จึงช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพในการป้องกันและทำลาย Antigen เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าสาร Pectic Polysaccharide ในเอลเดอร์เบอร์รีสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันโดยการกระตุ้นการทำงานของ Macrophage อีกด้วย

จากการศึกษาของ Krawitz et al., 2011 ในผู้ป่วยที่มีไข้มากกว่า 38ºC และอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล จำนวน 60 คน โดยให้ผู้ป่วยทาน Standardized elderberry syrup ปริมาณ 15 มล. จำนวน 4 ครั้งต่อวัน นาน 5 วัน พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับ Standardized elderberry syrup มีอาการของไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ลดลงเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ได้รับยาหลอก

ในผู้ป่วยที่แสดงอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ (ไข้ คัดจมูก น้ำมูก) เมื่อได้รับเม็ดอมที่มีส่วนผสมของ Elderberry Extract 175 mg. จำนวน 4 เม็ดต่อวัน นาน 48 ชม. พบว่าผู้ป่วย 28% มีอาการดีขึ้นโดยไม่แสดงอาการของโรคที่เป็นทั้งหมด และ 60% ของผู้ป่วยพบว่าอาการของโรค 2 ใน 3 ดีขึ้น แต่ยังคงมีอาการไข้อยู่บ้าง

จากผลการวิจัยและกรณีศึกษาที่ได้กล่าวมาข้างต้น สามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนผลการออกฤทธิ์ของสารสกัดเอลเดอร์เบอร์รี (Elderberry Extract) ในการยับยั้งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี

 

ประโยชน์ด้านอื่นๆของ เอลเดอร์เบอร์รี (Elderberry)

นอกเหนือจากเอลเดอร์เบอร์รี (Elderberry) จะมีคุณสมบัติเด่นในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้ว ยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆ อีกมากมาย ดังนี้

  • ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ หากร่างกายเรามีปริมาณอนุมูลอิสระมากอาจส่งผลให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายเกิดความผิดปกติซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอและส่งผลก่อให้เกิดมะเร็งชนิดต่างๆได้ เอลเดอร์เบอร์รี อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงโดยเฉพาะสารในกลุ่มแอนโทไซยานิน จึงช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระไม่ให้มาทำร้ายเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
  • ช่วยดูแลสุขภาพดวงตา สารแอนโทไซยานินในเอลเดอร์เบอร์รี เป็นสารอาหารที่มีคุณสมบัติเด่นในด้านอาหารสำหรับสายตา จึงมีสรรพคุณในการป้องกันโรคและความผิดปกติที่เกิดกับดวงตาได้
  • ช่วยดูแลสุขภาพหัวใจ นอกจากสารแอนโทไซยานินที่ช่วยทำให้หลอดเลือดหัวใจแข็งแรงแล้ว ยังพบว่าสารรูตินในเอลล์เดอร์เบอร์รีก็ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีและลดการเกิดลิ่มเลือดได้อีกด้วย
  • ช่วยลดการอักเสบของผิว ในเอลเดอร์เบอร์รีมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบของผิว ลดอาการผื่นแพ้และระคายเคืองต่างๆ ได้
  • ช่วยดูแลสุขภาพสมอง สารกลุ่มแอนโธไซยานินและเควอซิทินในเอลเดอร์เบอร์รีช่วยดูแลสุขภาพของสมองและเซลล์ประสาท สามารถลดภาวะสมองเสื่อมจากหลอดเลือดได้โดยการลดขนาดรอยโรคขาดเลือดในสมองและสามารถเสริมประสิทธิภาพด้านความจำได้

 

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมนึกถึง “เอลเดอร์เบอร์รี” (Elderberry) ผลไม้ตระกูลเบอร์รีผลจิ๋วไว้เป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพกันนะคะ!!  เพราะชีวิตดีเริ่มต้นที่สุขภาพ ด้วยความปรารถนาดีจาก Vistra_Imufort

 

Literature Cited:

  1. Amanda Barrell. (2018). Health benefits of elderberry. Retrieved July 23, 2020, from https://www.medicalnewstoday.com/articles/323288.
  2. Ana Gotter. (2014). The Potential Health Benefits of Rutin. Retrieved July 23, 2020, from https://www.healthline.com/health/potential-benefits-of-rutin.
  3. Cathy Wong. (2020). The Health Benefits of Quercetin. Retrieved August 1, 2020, from https://www.verywellhealth.com/the-benefits-of-quercetin-89071.
  4. Krawitz et al. Inhibitory activity of a standardized elderberry liquid extract against clinically-relevant human respiratory bacterial pathogens and influenza A and B viruses. BMC Complementary and Alternative Medicine, 2011.
  5. The ABC Clinical Guide to Elder berry. The American Botanical Council. 2004.
  6. Zakay-Rones, E. Thom and T. Wollan. Oral elderberry extract in the treatment of influenza. The Journal of International Medical Research. 2004; 32: 132 – 140.
แชร์:

บทความที่คุณอาจสนใจ

วิตามินอีและวิตามินซีเป็นวิตามินช่วยลดการอักเสบ
หลังจากทำศัลยกรรมมักเกิดอาการบวมและช้ำจากการอักเสบได้ บทความนี้จึงรวมวิธีลดบวม และอาหารเสริมลดการอักเสบมาแนะนำให้ได้รู้จักกัน
ซิงก์ (Zinc) หนึ่งในวิตามินที่สามารถบำรุงเส้นผม และสุขภาพคุณผู้ชายได้เป็นอย่างดี อยากรู้ว่าซิงก์นั้นมีประโยชน์ต่อผู้ชายอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ
ผิวแห้งมากจนแสบคัน ต้องทำไงดีเพื่อฟื้นฟูไม่ให้ผิวดูแห้งกร้าน? เสริมด้วยคอลลาเจน ตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ตึงกระชับผิว ศึกษาต่อได้ในบทความนี้