วิตามินซี (Vitamin C) หรือกรดแอสคอร์บิก (ascorbic acid) เป็นวิตามินชนิดละลายน้ำ ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ จำเป็นต้องได้รับจากการทานเข้าไป มีหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระภายในร่างกาย แหล่งอาหารที่มีปริมาณวิตามินซีสูง ได้แก่ อาหารจำพวกผักและผลไม้ เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอ มะนาว กีวี พริกหยวก ผักกาด มะเขือเทศ หน่อไม้ฝรั่งและบล็อคโคลี่ เป็นต้น แต่ในความเป็นจริงการรับประทานวิตามินซีจากผักผลไม้สดๆเป็นประจำอาจเป็นไปได้ยากและวิตามินซีเป็นวิตามินที่เสื่อมสลายได้ง่ายเมื่อโดนอากาศและความร้อนจากการปรุงอาหาร อาจทำให้เราได้รับปริมาณวิตามินซีต่อวันไม่เพียงพอตามความต้องการของร่างกาย ดังนั้นการรับประทานวิตามินซีเสริมเป็นประจำทุกวันจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นิยมกันในปัจจุบัน
ประโยชน์ของวิตามินซี
1. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่มีประสิทธิภาพสูงช่วยปกป้องเซลล์
2. เสริมภูมิต้านทานและช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ เนื่องจากวิตามินซีมีคุณสมบัติ
ช่วยต่อต้านสารที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้
3. สร้างคอลลาเจนเพื่อช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกาย ชะลอความแก่ และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
4. ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
5. ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียหลายชนิด
6. ป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL)
7. ช่วยลดการเกิดเส้นเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
8. ช่วยดูแลดวงตา ต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะเกิดขึ้น ลดความเสี่ยงการเกิดโรคต้อกระจก
จะเห็นว่าวิตามินซีมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆด้าน นอกจากจะได้รับวิตามินซีจากอาหารแล้ว สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับภาวะขาดวิตามินซี ก็สามารถเลือกบริโภควิตามินซีในรูปของอาหารเสริมได้ โดยปกติแล้วคนเราควรได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอต่อวัน ปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันนั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเพศและวัยแต่โดยเฉลี่ยแล้วไม่ควรรับประทานวิตามินซีเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะหากร่างกายได้รับวิตามินซีในประมาณที่มากเกินไปอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น มีอาการปวดท้อง ท้องร่วง หรือท้องอืด เป็นต้น