ราชาแห่งผลไม้ลดน้ำหนัก ‘แอปเปิ้ล’ กินแล้วฟิต เฟิร์มขึ้น..
ราชาแห่งผลไม้ลดน้ำหนัก ‘แอปเปิ้ล’ กินแล้วฟิต เฟิร์มขึ้น.. แอปเปิ้ล 1 ลูกให้พลังงานแค่ 100-150 kcal เท่านั้น ดังนั้นถึงจะกินมาก ก็ยังได้รับแคลอรีน้อยกว่าเมื่อเทียบกับอาหารปกติ ในแอปเปิ้ลมีสารอาหารที่ช่วยลดความอ้วนและให้ประโยชน์เรื่องความงามหลายชนิด และยังช่วยเรื่องระบบขับถ่าย, ช่วยกำจัดโซเดียม และต้านอนุมูลอิสระ
ระบบขับถ่ายดีขึ้น
ในแอปเปิ้ลมีเส้นใยอาหารชื่อ pectin ซึ่งเป็นเส้นใยอาหารชนิดละลายในน้ำอยู่จำนวนมาก pectin จะเปลี่ยนน้ำตาล, โซเดียม, ไขมัน ให้เป็นสะสารในรูปเจลแล้วหุ้มไว้ ลดการดูดซึมสารดังกล่าว สาร pectin จะมีอยู่ในเปลือกากกว่าส่วนเนื้อผล นอกจากนี้ยังมีเซลลูโลสที่เป็นเส้นใยอาหารที่ช่วยทำความสะอาดลำไส้ ทำใหรบบขับถ่ายเป็นปกติ
กำจัดเกลือ(โซเดียม)ออกจากร่างกาย
โพแทสเซียมในแอปเปิ้ลจะช่วยขับโซเดียมในร่างกาย และช่วยลดระดับความดันเลือด(ถ้าร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป โซเดียมจะไปสะสมในหลอดเลือด ทำให้ความดันสูง อาจเป็นโรคหลอดเลือดในสมองผิดปกติ) ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดอาการบวมน้ำ
ต้านอนุมูลอิสระ
แอปเปิ้ลมีสารโพลีฟีนอลมากกว่า 100 ชนิด สารนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ Antiaging และลดคอเลสเตอรอล สารโพลีฟีนอลจะมีมากที่เปลือกแอปเปิ้ล และมีมากกว่าส่วนเนื้อผลถึง 4 เท่า เวลากินแอปเปิ้ลก็กินแบบไม่ปอกเปลือกจะได้ประโยชน์สูงสุด
วิธีลดความอ้วนด้วยการกินแอปเปิ้ล
อธิบายง่ายๆ คือ กินแอปเปิ้ลเพียงอย่างเดียวติดต่อกัน 3 วัน โดยงดของกินชนิดอื่นทั้งหมด ส่วนเครื่องดื่มสามารถดื่มได้เฉพาะน้ำเปล่าหรือกาแฟเท่านั้น * ไม่จำกัดปริมาณแอปเปิ้ล
- อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารดังนั้นไม่ควรกินติดต่อกันเกิน 3 วัน
- ไม่ควรใช้วิธีนี้ในช่วงี่ร่างกายไม่พร้อม (ไม่สบายหรือมีประจำเดือน)
- ถ้าเกิดอาการผิดปกติ ให้หยุดทันที
- ระหว่างที่ใช้วิธีนี้ลดความอ้วนไม่ควรออกกำลังกายอย่างหนัก
มื้อที่ควรกินแอปเปิ้ลแทนมื้อหลักคือ “มื้อเช้า” และ “มื้อของว่าง”
การกินแอปเปิ้ลแทนอาหารหลักในมื้อเช้า จะช่วยเติมเอ็นไซม์ให้กับร่างกาย ช่วงเช้าถือเป็นเวลาที่เหมาะกับการดีท็อกซ์ และขับสิ่งตกค้างมากที่สุด ถ้าเติมเอ็มไซม์ที่จำเป็นในกระบวนการย่อยอาหารก็จะทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกาลดความอ้วน
ส่วนการกินแอปเปิ้ลในมื้อของว่าง จะเหมือนเป็นการรองท้อง ทำให้ลดปริมาณอาหารที่จะกินในมื้อถัดไปลงได้ ป้องกันการกินมากเกินไปได้ค่ะ
แอปเปิ้ลเขียว หรือแอปเปิ้ลแดง ที่มีประโยชน์มากกว่ากัน
เมื่อวิเคราะห์จากคุณค่าสารอาหารต่าง ๆ เปรียบเทียบระหว่างแอปเปิ้ลเขียวและแอปเปิ้ลแดง พบว่าไม่มีความแตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่แอปเปิ้ลแดงมีเหนือกว่าเล็กน้อยคือ ปริมาณของสารแอนโทไซยานิน ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟลาโวนอยด์นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : japanesestyle-diet.com