อาการของคอกระดูกเสื่อม
เมื่ออายุย่างเข้าวัยกลางคนคือ 30 ปีขึ้นไปหมอนรองกระดูกซึ่งเป็นกระดูกอ่อนจะเริ่มมีอาการเปลี่ยนแปลงไปในทางเสื่อมตัวคือองค์ประกอบที่เป็นน้ำที่ทำให้เกิดการยืดหยุ่นในตัวของหมอนรองกระดูกคอจะลดลงไปทำให้คุณสมบัติในการยืดหยุ่นของหมอนรองกระดูกเสียไป ทำให้กระดูกคอปล้องที่หมอนรองกระดูกมีการเคลื่อนไหวไปในลักษณะที่ไม่ราบเรียบเป็นปกติ ถ้าเราไม่ระมัดระวังปล่อยให้กระดูกคอเคลื่อนไหวมากเกินขอบเขตก็จะทำให้เกิดการชำรุดของหมอนรองกระดูกคอเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมีผลทำให้ข้อต่อของกระดูกคอปล้องนั้นๆเสียไป
อาการเริ่มต้นของหมอนรองกระดูกคอเสื่อมคือจะมีอาการปวดคอและคอแข็งที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ตกหมอน” บางทีก็มีอาการปวดตื้อๆ ลึกๆ ที่บริเวณสะบัก ที่ชาวบ้านเรียกว่า “สะบักจม” อาการทั้งสองอย่างนี้เป็นสัญญาณเตือนว่าหมอนรองกระดูกคอเริ่มมีอาการเสื่อมตัวแล้ว ถ้าการเสื่อมตัวของหมอนรองกระดูกคอมากขึ้นก็จะมีการทรุดตัวของหมอนรองกระดูกคอมากขึ้น ทำให้ช่องว่างระหว่างกระดูกคอแคบลง และมีกระดูกงอกตามขอบของข้อต่อกระดูกคอ ที่เรียกว่า “กระดูกงอก” หรือ “หินปูนเกาะ” มีผลทำให้เกิดการตีบแคบของช่องประสาทที่ผ่านลงไป เมื่อตีบแคบถึงระดับหนึ่งก็จะเกิดการกดทับเส้นประสาท และประสาทไขสันหลัง ถ้าเป็นการกดทับเส้นประสาทก็จะทำให้เกิดการปวดร้าวลงไปตามแขนจนถึงนิ้วมือ ถ้ากดมากๆ จะทำให้เกิดอาการชาและกล้ามเนื้ออ่อนแรง ถ้ามีการกดประสาทไขสันหลังก็จะทำให้เกิดอาการเกร็ง |