น้ำมันปลา เป็นอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เพราะมีประโยชน์ในด้านการบำรุงระบบประสาทและสมองทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เรามาทำความรู้จักว่าน้ำมันปลาคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และวิธีการเลือกน้ำมันปลาคุณภาพให้ทุกคนในครอบครัวทานกันก่อนดีกว่า
1. น้ำมันปลาคืออะไร
น้ำมันปลา เป็นไขมันที่ได้จากปลาทะเลซึ่งอยู่ในแหล่งน้ำเย็นที่สะอาด และไม่มีการปนเปื้อนของโลหะหนัก อย่างสารตะกั่วและปรอท โดยส่วนมากจะใช้ปลาอย่างปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาคอด ปลาแอนโชวี ปลาเฮริ่ง ปลาแมคเคอเรล และปลาซาร์ดีน โดยใช้ไขมันจากส่วนหัวปลา หนังปลา หางปลา และไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อของปลา ซึ่งไขมันปลาเหล่านี้เป็นกรดไขมันดีในกลุ่มโอเมกา 3 อย่าง DHA หรือกรดไขมันโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic acid) และ EPA หรือ กรดอิโคซะเพนตะอีโนอิก (Eicosapentaenoic acid) อยู่สูง ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ล้วนแต่มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็ก ๆ ทั้งในด้านการพัฒนาของสมองและดวงตาทั้งนั้น อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุด้วย
ไขมันจากปลาทะเลเหล่านี้จะถูกนำมาสกัดเป็นน้ำมันปลา และจะนำมาผ่านกระบวนการผลิตจนได้เป็นอาหารเสริมบำรุงสมองในรูปแบบของแคปซูลนิ่ม เยลลี่ที่ทานได้ง่าย หรือแม้แต่ในรูปแบบน้ำมันปลาเหลวที่ทำให้เด็กเล็กทานได้ หรือนำไปผสมกับอาหารได้นั่นเอง
2. ประโยชน์ของน้ำมันจากปลาทะเล
ประโยชน์น้ำมันปลานั้นไม่ได้มีเพียงแค่ด้านพัฒนาการของสมองเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อีกหลายด้านดังนี้
บำรุงสมอง
น้ำมันจากปลาทะเลนั้นมีประโยชน์ที่โดดเด่นในการบำรุงสมอง เพราะมีกรดไขมันโอเมกา 3 อยู่ด้วย ซึ่งกรดไขมันชนิดนี้ มีส่วนช่วยในการทำงานของสมอง ช่วยชะลอการเสื่อมตัวของสมอง อีกทั้งยังมีผลการศึกษาว่า กรดไขมันโอเมกา 3 นั้นสามารถบรรเทาความผิดปกติของระบบประสาทและสมองได้ในภาวะเครียด ซึมเศร้า และโรคจิตบางชนิดด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ในโอเมกา 3 ยังมี DHA ที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของเซลล์สมองอยู่อีกด้วย จึงมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ ดังนั้นน้ำมันปลาจึงมีประโยชน์กับคนทุก ๆ วัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุก็ตาม โดยเฉพาะในวัยเด็กที่ DHA จะมีส่วนช่วยในพัฒนาการทางสมอง ทำให้สมองของเด็กทำงานได้ดี เรียนรู้ได้ไว และมีความจำที่ดีนั่นเอง
บำรุงสายตา
อีกหนึ่งประโยชน์ของน้ำมันจากปลาคือ การบำรุงสายตา เพราะโอเมกา 3 ในน้ำมันจากปลาจะช่วยให้ต่อม Meibomian gland บริเวณเปลือกตาซึ่งมีหน้าที่ผลิตไขมันมาเคลือบบริเวณดวงตาสามารถทำงานได้ดี และจะส่งผลให้น้ำมันไม่ระเหยเร็วจนเกินไปเนื่องจากมีชั้นไขมันเคลือบอยู่ จึงช่วยลดอาการแสบตาและตาแห้งได้ด้วย นอกจากนั้น ยังช่วยพัฒนาระบบประสาทและสมอง ส่งผลให้สายตาทำงานได้ดีขึ้น มองเห็นในที่มืด ที่แสงน้อยได้ดีขึ้นด้วย
ลดไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์
ไตรกลีเซอร์ไรด์ เป็นไขมันที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้นเองในตับ และได้รับจากการทานอาหารที่มีไขมัน เช่น หมูกรอบ หมูสามชั้น เนย และน้ำมันต่าง ๆ และหากมีไตรกลีเซอร์ไรด์สะสมในร่างกายสูง ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ แต่การทานน้ำมันปลา จะมีส่วนช่วยในการลดไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์มากถึง 50% เลยทีเดียว จึงช่วยลดความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน หรือหลอดเลือดสมองตีบ โรคตับอ่อนอักเสบ โรคไขมันเกาะตับ และมะเร็งเต้านมได้
บำรุงกระดูกและข้อ
น้ำมันจากปลาทะเล สามารถช่วยบำรุงกระดูกและข้อได้ โดยเฉพาะข้อเข่า เนื่องจากในน้ำมันจากปลาจะมีกรดไขมันโอเมกา 3 ที่มี EPA อยู่ด้วย และ EPA นี่เองที่ช่วยในการลดสารก่อให้เกิดการอักเสบบริเวณข้อต่าง ๆ ได้ ทำให้ลดอาการปวด บวม และอักเสบได้ เพราะฉะนั้นการทานน้ำมันปลาเป็นประจำจึงช่วยลดอาการของภาวะข้อเสื่อมและข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้
บำรุงผิวหนัง
ไขมันจากปลา เป็นไขมันดีที่ร่างกายต้องการซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณด้วยเช่นกัน โดยมีผลวิจัยพบว่า การทานน้ำมันปลาจะช่วยสร้างสมดุลให้แก่ฮอร์โมนแอนโดรเจนที่มีผลต่อการผลิตต่อมไขมัน ซึ่งเมื่อฮอร์โมนทำงานได้เป็นปกติ ก็จะช่วยลดการเกิดสิวและการอักเสบของผิวได้นั่นเอง นอกจากนั้น ไขมันดียังช่วยทำให้ผิวพรรณมีความเต่งตึง ไม่เหี่ยวแห้งด้วย ทำให้ผิวแลดูสุขภาพดีนั่นเอง
บำรุงสุขภาพครรภ์
น้ำมันปลามีประโยชน์ต่อหญิงที่กำลังตั้งครรภ์มาก ๆ เพราะจะช่วยเสริมให้ได้รับ EPA และ DHA ในโอเมกา 3 ในปริมาณที่เพียงพอ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้สุขภาพครรภ์แข็งแรง และทำให้พัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์เติบโตได้อย่างดี
3. น้ำมันปลาเหมาะกับใครบ้าง ?
น้ำมันปลานั้นไม่ใช่แค่อาหารเสริมบำรุงสมองเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงครรภ์ หรือแม้แต่การช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคบางอย่างในผู้ใหญ่ ทำให้น้ำมันปลาเป็นสุดยอดอาหารเสริมที่สามารถทานได้ทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็ก เด็กโต ผู้ใหญ่ ไปจนถึงผู้สูงอายุ
4. เทคนิคการเลือกน้ำมันปลาคุณภาพดี
หากต้องการทานน้ำมันปลาให้ได้ประโยชน์สูงสุด คุณจำเป็นต้องมีวิธีการเลือกผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาเพื่อการันตีคุณภาพ และความปลอดภัยของน้ำมันปลา ซึ่งมีเทคนิคการเลือกดังนี้
- เลือกแบรนด์ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันปลาที่น่าเชื่อถือ
สิ่งแรกที่คุณควรคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อน้ำมันปลาเพื่อตัวเอง และคนในครอบครัวก็คือการเลือกแบรนด์ผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีความเชี่ยวชาญในด้านการผลิตอาหารเสริม เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และควรเลือกแบรนด์ที่วางขายตามร้านขายยา หรือห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่มีความน่าเชื่อถือสูง เพื่อเลี่ยงการซื้อสินค้าปลอมแปลง และสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานสากล
เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานการผลิตระดับสากล เพื่อการันตีถึงความปลอดภัยของอาหารเสริมน้ำมันปลาที่เลือกซื้อ ว่าผลิตในโรงงานที่ได้มาตรฐานสากล และมีกระบวนการผลิตที่สะอาด ปลอดภัย เป็นไปตามขั้นตอน โดยสามารถสังเกตได้จากสัญลักษณ์ GMP, HACCP, และ ISO สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริม
- เลือกผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาที่ปลอดสารปนเปื้อน และปลอดโลหะหนัก
ตรวจสอบให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่คุณจะเลือกซื้อมาทานนั้นไม่มีการปนเปื้อนของสารอันตราย และปลอดโลหะหนัก เพราะหากได้รับสารเหล่านั้นเข้าไปในปริมาณมาก ๆ จากการทานน้ำมันปลาที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นประจำ ก็อาจก่อให้เกิดโรคหรืออาการป่วยได้ในอนาคต
- เลือกผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาที่มีโอเมกา 3, EPA, และ DHA สูง
นอกจากความสะอาดปลอดภัยแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกน้ำมันปลาก็คือคุณภาพ และปริมาณของสารอาหารสำคัญที่อยู่ในน้ำมันปลา โดยคุณควรเลือกผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาที่มี โอเมกา 3, EPA และ DHA สูง เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์จากสารอาหารในน้ำมันปลาเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวันนั่นเอง
น้ำมันปลาคืออาหารเสริมบำรุงสมอง ที่มีประโยชน์สำหรับทุกช่วงวัย ทั้งส่งเสริมพัฒนาการที่สมบูรณ์แข็งแรงของสมอง ให้คิดไว และจำเก่งในเด็ก และบำรุงสมองผู้ใหญ่เพื่อป้องกันความจำเสื่อม รวมถึงลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดอุดตันและอื่น ๆ เรียกได้ว่าเป็นอาหารเสริมที่เหมาะกับคนทุกเพศ ทุกวัยแบบไม่ควรพลาด